• Home
  • Lens&knowledge
  • มารู้จักกับระบบการปรับโฟกัสของตากันค่ะ
มารู้จักกับระบบการปรับโฟกัสของตากันค่ะ

มารู้จักกับระบบการปรับโฟกัสของตากันค่ะ

15 มี.ค. 2568   ผู้เข้าชม 22

ระบบการปรับโฟกัสของตา หรือ Accommod0ation

ดวงตาของมนุษย์มีความพิเศษมากมาย ทั้งการรับภาพ การส่งภาพ การแปลภาพเข้าสู่ระบบสมอง ทำให้เราสามารถเห็นเป็นภาพ วัตถุว่าสิ่งนั้นคืออะไร
และท่านสงสัยหรือไม่ว่า ในการมองภาพหรือวัตถุนั้นเราจะเห็นสิ่งที่สนใจชัดเจนกว่าบริเวณรอบๆ เปรียบเหมือนตอนที่เราถ่ายภาพจะมีจุดโฟกัสภาพที่จะมีความคมชัดที่จุดหนึ่งมากกว่าบริเวณรอบๆ และนั่นก็คือความสามารถของตาเราที่กำลังจะกว่างถึงต่อไปนี้ค่ะ

ระบบการโฟกัสของตา (Accommodation) ในการมองระยะไกลและใกล้

การโฟกัสของตา (Accommodation) คือกระบวนการที่ดวงตาปรับเปลี่ยนรูปทรงของเลนส์ตาเพื่อให้สามารถมองเห็นวัตถุที่อยู่ห่างไกลหรือใกล้ได้ชัดเจน กระบวนการนี้เกิดขึ้นโดยการปรับความโค้งของเลนส์ตาผ่านการทำงานร่วมกันของกล้ามเนื้อที่เรียกว่า Ciliary muscle ซึ่งทำให้ระยะโฟกัสของดวงตาปรับเปลี่ยนได้ตามระยะของวัตถุที่ต้องการมองเห็น

🔹การทำงานของระบบการโฟกัสในระยะต่างๆ🔹

  1. การมองระยะใกล้ เมื่อเรามองวัตถุที่อยู่ใกล้ ดวงตาจะทำการปรับเลนส์ให้มีความโค้งมากขึ้น เพื่อให้แสงที่ผ่านเข้ามากระทบที่จุดโฟกัสที่ตรงกับจอประสาทตา (Retina) การปรับตัวนี้เกิดขึ้นจากการหดตัวของกล้ามเนื้อซิลิอารี (Ciliary muscle) ที่ทำให้เส้นใยที่ยึดเลนส์ (Zonules) คลายตัว ทำให้เลนส์มีความโค้งมากขึ้นและสามารถโฟกัสกับวัตถุที่อยู่ใกล้ได้

  2. การมองระยะไกล เมื่อเรามองวัตถุที่อยู่ห่างออกไป ดวงตาจะปรับเลนส์ให้มีความโค้งน้อยลง เพื่อให้แสงที่เข้ามากระทบตรงกับจอประสาทตาอย่างชัดเจนในระยะไกล กระบวนการนี้เกิดขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อซิลิอารีคลายตัว ทำให้เส้นใยที่ยึดเลนส์ตึงขึ้นและทำให้เลนส์แบนลง ซึ่งช่วยให้แสงที่เข้ามามีจุดโฟกัสที่จอประสาทตา

🔹 การเปลี่ยนแปลงในวัย 🔹

การทำงานของระบบการโฟกัสของตาอาจเปลี่ยนแปลงไปตามอายุ โดยเฉพาะเมื่ออายุมากขึ้น ความสามารถในการปรับเลนส์ให้โค้งมากขึ้นหรือแบนลงจะลดลง ทำให้การมองเห็นระยะใกล้ไม่ชัดเจน การเปลี่ยนแปลงนี้เรียกว่า Presbyopia ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงวัยกลางคน (ประมาณ 40-45 ปี) เป็นผลจากการที่เลนส์ตาเริ่มแข็งตัวและกล้ามเนื้อที่ควบคุมการโฟกัสไม่สามารถทำงานได้เต็มที่

🔹ความสำคัญของการโฟกัสในการมองเห็น🔹

การโฟกัสเป็นกระบวนการที่สำคัญมากในการมองเห็นที่ชัดเจนทั้งในระยะใกล้และไกล หากระบบการโฟกัสทำงานผิดปกติ จะทำให้การมองเห็นไม่ชัดเจน
ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาการมองเห็นเช่น สายตาสั้น (Myopia), สายตายาว (Hyperopia), หรือ สายตาเอียง (Astigmatism)

การตรวจสุขภาพตาอย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยตรวจพบปัญหาการโฟกัสที่เกิดขึ้นได้ และสามารถทำการรักษาหรือปรับปรุงการมองเห็นได้อย่างเหมาะสม

ฉะนั้น ระบบการโฟกัสของตาเป็นกลไกที่ซับซ้อนที่ทำให้เราสามารถมองเห็นวัตถุในระยะต่างๆ ได้ชัดเจน โดยการปรับเลนส์ตาให้เหมาะสมกับระยะทางของวัตถุที่ต้องการมองเห็น การทำงานนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการมองเห็นที่ชัดเจน และสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามอายุ ดังนั้นการดูแลสุขภาพตาและการตรวจเช็คอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาคุณภาพการมองเห็นในระยะยาวค่ะ


Lens&knowledgeที่เกี่ยวข้อง

เลนส์ป้องกันแสงสีฟ้า ที่เป็นอันตรายต่อดวงตา
08 ก.พ. 2568

เลนส์ป้องกันแสงสีฟ้า ที่เป็นอันตรายต่อดวงตา

เรามักจะได้ยินคนพูดถึงกันทั่วไปในปัจจุบัน ซึ่งโดยส่วนใหญ่คนมักจะเข้าใจว่า บลูไลท์ มีเฉพาะจากหน้าจออิเล็กทรอนิกส์ อย่างคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์มือถือเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว แสงแดดก็มีบลูไลท์ รวมอยู่ด้วยเช่นกันแสงสีฟ้า หรือ บลูไลท์ (Bluelight) เป็นคลื่นแสงพลังงานสูง (High Energy Visible Light) ที่มีต้นกำเนิดจากดวงอาทิตย์ โดยปกติแสงสีขาวจากดวงอาทิตย์จะแยกเป็นสเปกตรัมทั้งหมด 7 สี ได้แก่ ม่วง คร
ทำไมถึงต้องตรวจวัดสายตาในที่แสงน้อย 🤔🤔
05 ส.ค. 2566

ทำไมถึงต้องตรวจวัดสายตาในที่แสงน้อย 🤔🤔

ในกระบวนการตรวจวัดสายตานั้น จุดสำคัญสิ่งหนึ่งที่จะส่งผลต่อการหาแนวทางแก้ไขปัญหาค่าสายตา นั้นคือ ... การตรวจวัดสายตาในพื้นที่ที่มีแสงน้อยหรือในห้องมืด   แล้วทำไมจึงต้องตรวจวัดสายตาในพื้นที่แสงน้อยกันล่ะ ??   👀 ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับอวัยวะดวงตาเบื้องต้นก่อน 👀 ดวงตาของเรานั้นมีลักษณะเป็นทรงกลม ที่มีเปลือกตาและลูกตาขาวและลูกตาดำ ภายในลูกตาดำนั้นจะเป็นส่วนของม่านตา (iris) และมีรูม่าน
เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อนแสงแดดจ้ากว่าฤดูอื่นๆ ส่งผลให้ท่านรู้สึกตาสู้แสงจ้าไม่ไหวหรือไม่
19 มี.ค. 2568

เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อนแสงแดดจ้ากว่าฤดูอื่นๆ ส่งผลให้ท่านรู้สึกตาสู้แสงจ้าไม่ไหวหรือไม่

ในทุกๆวันเมื่อแสงที่กระทบกับดวงตาไม่เพียงแต่ทำให้เราสามารถมองเห็นได้ แต่ยังมีประโยชน์หลายด้านที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพของดวงตาและร่างกายโดยรวมค่ะอย่างเช่น เราต้องการแสงเพื่อลำเลียงภาพจากวัตถุไปยังเรตินาหรือจอรับภาพในตาส่งข้อมูลไปยังสมองเพื่อแปลความหมาย, การควบคุมวงจรนาฬิกาชีวภาพ (circadian rhythm) ของร่างกาย, แสงธรรมชาติช่วยกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนเซโรโทนินในสมองการได้รับแสงแดดในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้