• Home
  • Lens&knowledge
  • มารู้จักกับระบบการปรับโฟกัสของตากันค่ะ
มารู้จักกับระบบการปรับโฟกัสของตากันค่ะ

มารู้จักกับระบบการปรับโฟกัสของตากันค่ะ

15 มี.ค. 2568   ผู้เข้าชม 204

ระบบการปรับโฟกัสของตา หรือ Accommod0ation

ดวงตาของมนุษย์มีความพิเศษมากมาย ทั้งการรับภาพ การส่งภาพ การแปลภาพเข้าสู่ระบบสมอง ทำให้เราสามารถเห็นเป็นภาพ วัตถุว่าสิ่งนั้นคืออะไร
และท่านสงสัยหรือไม่ว่า ในการมองภาพหรือวัตถุนั้นเราจะเห็นสิ่งที่สนใจชัดเจนกว่าบริเวณรอบๆ เปรียบเหมือนตอนที่เราถ่ายภาพจะมีจุดโฟกัสภาพที่จะมีความคมชัดที่จุดหนึ่งมากกว่าบริเวณรอบๆ และนั่นก็คือความสามารถของตาเราที่กำลังจะกว่างถึงต่อไปนี้ค่ะ

ระบบการโฟกัสของตา (Accommodation) ในการมองระยะไกลและใกล้

การโฟกัสของตา (Accommodation) คือกระบวนการที่ดวงตาปรับเปลี่ยนรูปทรงของเลนส์ตาเพื่อให้สามารถมองเห็นวัตถุที่อยู่ห่างไกลหรือใกล้ได้ชัดเจน กระบวนการนี้เกิดขึ้นโดยการปรับความโค้งของเลนส์ตาผ่านการทำงานร่วมกันของกล้ามเนื้อที่เรียกว่า Ciliary muscle ซึ่งทำให้ระยะโฟกัสของดวงตาปรับเปลี่ยนได้ตามระยะของวัตถุที่ต้องการมองเห็น

🔹การทำงานของระบบการโฟกัสในระยะต่างๆ🔹

  1. การมองระยะใกล้ เมื่อเรามองวัตถุที่อยู่ใกล้ ดวงตาจะทำการปรับเลนส์ให้มีความโค้งมากขึ้น เพื่อให้แสงที่ผ่านเข้ามากระทบที่จุดโฟกัสที่ตรงกับจอประสาทตา (Retina) การปรับตัวนี้เกิดขึ้นจากการหดตัวของกล้ามเนื้อซิลิอารี (Ciliary muscle) ที่ทำให้เส้นใยที่ยึดเลนส์ (Zonules) คลายตัว ทำให้เลนส์มีความโค้งมากขึ้นและสามารถโฟกัสกับวัตถุที่อยู่ใกล้ได้

  2. การมองระยะไกล เมื่อเรามองวัตถุที่อยู่ห่างออกไป ดวงตาจะปรับเลนส์ให้มีความโค้งน้อยลง เพื่อให้แสงที่เข้ามากระทบตรงกับจอประสาทตาอย่างชัดเจนในระยะไกล กระบวนการนี้เกิดขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อซิลิอารีคลายตัว ทำให้เส้นใยที่ยึดเลนส์ตึงขึ้นและทำให้เลนส์แบนลง ซึ่งช่วยให้แสงที่เข้ามามีจุดโฟกัสที่จอประสาทตา

🔹 การเปลี่ยนแปลงในวัย 🔹

การทำงานของระบบการโฟกัสของตาอาจเปลี่ยนแปลงไปตามอายุ โดยเฉพาะเมื่ออายุมากขึ้น ความสามารถในการปรับเลนส์ให้โค้งมากขึ้นหรือแบนลงจะลดลง ทำให้การมองเห็นระยะใกล้ไม่ชัดเจน การเปลี่ยนแปลงนี้เรียกว่า Presbyopia ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงวัยกลางคน (ประมาณ 40-45 ปี) เป็นผลจากการที่เลนส์ตาเริ่มแข็งตัวและกล้ามเนื้อที่ควบคุมการโฟกัสไม่สามารถทำงานได้เต็มที่

🔹ความสำคัญของการโฟกัสในการมองเห็น🔹

การโฟกัสเป็นกระบวนการที่สำคัญมากในการมองเห็นที่ชัดเจนทั้งในระยะใกล้และไกล หากระบบการโฟกัสทำงานผิดปกติ จะทำให้การมองเห็นไม่ชัดเจน
ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาการมองเห็นเช่น สายตาสั้น (Myopia), สายตายาว (Hyperopia), หรือ สายตาเอียง (Astigmatism)

การตรวจสุขภาพตาอย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยตรวจพบปัญหาการโฟกัสที่เกิดขึ้นได้ และสามารถทำการรักษาหรือปรับปรุงการมองเห็นได้อย่างเหมาะสม

ฉะนั้น ระบบการโฟกัสของตาเป็นกลไกที่ซับซ้อนที่ทำให้เราสามารถมองเห็นวัตถุในระยะต่างๆ ได้ชัดเจน โดยการปรับเลนส์ตาให้เหมาะสมกับระยะทางของวัตถุที่ต้องการมองเห็น การทำงานนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการมองเห็นที่ชัดเจน และสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามอายุ ดังนั้นการดูแลสุขภาพตาและการตรวจเช็คอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาคุณภาพการมองเห็นในระยะยาวค่ะ


Lens&knowledgeที่เกี่ยวข้อง

ตอนนี้คุณอาจกำลังฝืนเพ่งมองโดยไม่รู้ตัวอยู่หรือไม่ !!
18 ม.ค. 2567

ตอนนี้คุณอาจกำลังฝืนเพ่งมองโดยไม่รู้ตัวอยู่หรือไม่ !!

การเพ่งมองจะส่งผลร้ายแรงมากแค่ไหน มาหาคำตอบกัน !!   ในปัจจุบันการใช้ชีวิตประจำวัน หลายๆท่านที่กำลังเรียน หรือทำงาน ต้องจดจ่อกับหน้าจออิเลคโทนิค การอ่านหนังสือ ขับรถ หรือแม้แต่การทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นเวลานาน  เรื่องที่เลี่ยงไม่ได้เลย นั่นก็คือ อาการตาล้า ที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย ซึ่งท่านอาจจะไม่รู้สึกตัวว่ากำลังเพ่งมองอยู่    อาการตาล้า อาจเนื่องมาจากการเพ่งมองม
สายตายาวสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนไหม ❓
23 มิ.ย. 2567

สายตายาวสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนไหม ❓

เรามักเห็นผู้สูงอายุสวมใส่แว่นตากันเป็นส่วนใหญ่ เราเคยคิดไหมว่าหากเราอายุเพิ่มขึึ้น จากที่เราไม่เคยสวมใส่แว่นตา เราจะต้องสวมใส่แว่นตาไหม และตอนอายุเท่าไหร่ มาหาคำตอบกันค่ะก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ "สายตายาว" กันก่อนค่ะสายตายาว (Hyperopia) เป็นภาวะผิดปกติทางสายตาที่เกิดจากกระจกตาแบนเกินไปหรือขนาดของลูกตาสั้นเกินไปเมื่อเทียบกับความยาวของลูกตา การรวมแสงจึงตกหลังจอประสาทตา ทำให้ไม่สามารถมองเห็นวัตถ
ปัจจัยสาเหตุที่คาดว่าก่อให้เกิดอาการสายตาสั้นในเด็ก
13 มี.ค. 2566

ปัจจัยสาเหตุที่คาดว่าก่อให้เกิดอาการสายตาสั้นในเด็ก

  ปัจจัยสาเหตุที่คาดว่าก่อให้เกิดอาการสายตาสั้นในเด็ก ปัจจัยทางกรรมพันธ์ุ  จากงานวิจัย พบว่าในกลุ่มเด็กที่มีผู้ปกครองสายตาสั้น ทั้งพ่อและแม่ของเด็ก ส่งผลให้เด็กมีโอกาสสายตาสั้นถึงร้อยละ 40  แต่หากพ่อหรือแม่ของเด็กมีภาวะสายตาสั้น จะส่งผลให้เด็กมีโอกาสสายตาสั้นที่ร้อยละ 20 และหากพ่อและแม่ที่ไม่มีภาวะสายตาสั้น อาจส่งผลให้เด็กมีโอกาสสายตาสั้นที่ร้อยละ 10 ปัจจัยจากสิ่งแวดล้อม จากการศึกษ